ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากรถจะติดมากกว่าปกติแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้นด้วย เนื่องจากถนนเปียก ลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นก็ไม่ค่อยดี การใช้รถใช้ถนนจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ วันนี้ อายฟลีต จึงขอแนะนำ 10 วิธีขับรถขณะฝนตก ให้ปลอดภัย เพื่อคุณและคนที่คุณรัก
สารบัญ
รู้หรือไม่ ขับรถในช่วงฝนตก 10 นาทีแรก มีโอกาสรถลื่นไถลสูงสุด
จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ดังนั้น การขับรถช่วงหน้าฝนอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ฝนตกหนัก 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบน้ำมันและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้เกิดเป็นเสมือนแผ่นฟิล์มอยู่บนผิวถนน ซึ่งอาจส่งผลให้รถลื่นและเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ

วิธีขับรถให้ปลอดภัยในขณะฝนตก
1. เปิดไฟหน้า
เพราะไฟหน้าจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นในสภาพที่แสงน้อยและฝนตกหนักได้
2. เปิดที่ปัดน้ำฝนให้แรงพอดี
ในขณะที่ฝนตก ควรเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วปรับระดับความเร็วของใบปัดให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา เพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัย
3. ใช้น้ำฉีดกระจกล้างสิ่งสกปรก
ในช่วงที่ฝนเริ่มตก น้ำที่กระเด็นจากการดีดจะมีลักษณะเหนียวคล้ายโคลน แม้จะใช้ก้านปัดน้ำฝนปัดก็ไม่สามารถปัดออกได้หมด จึงควรใช้น้ำฉีดกระจกช่วยชะล้างคราบโคลนเหล่านี้ด้วย
4. ไม่ขับรถเร็วเกินไป
ควรใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการมองเห็น
5. เว้นระยะห่างมากขึ้น
ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า เพื่อการเบรกอย่างปลอดภัย
6. ไม่ควรเบรกอย่างกะทันหัน
เพราะอาจเกิดการลื่นไถลของรถและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
7. สังเกตให้มากขึ้น
พยายามมองหาจุดที่มีน้ำขังบนถนนและลดความเร็วเมื่อต้องขับผ่านแอ่งน้ำขัง เนื่องจากรถอาจจะเหินน้ำและลื่นไถลได้หากขับมาด้วยความเร็วสูง
8. ประเมินระดับความลึกของน้ำ
มองระดับความลึกของน้ำ โดยสังเกตจากรถคันหน้าหรือขอบฟุตบาทข้างทาง เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าสามารถขับผ่านไปได้หรือไม่
9. ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำให้ปิดแอร์
หากต้องขับลุยพื้นที่น้ำท่วมขัง ควรจะปิดแอร์และใช้เกียร์ต่ำ ( เกียร์ L หรือ เกียร์ 1 ) เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำเกินไป ไม่งั้นน้ำอาจจะย้อนเข้าท่อไอเสียได้
10. ขับไม่ไหวให้หาที่จอด
หากฝนตกหนักมากจนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะ 10 เมตรได้ชัดเจน แนะนำให้หาที่จอดรถและรอจนฝนเบาลง ค่อยเดินทางต่อเพื่อความปลอดภัย

การเตรียมความพร้อมของยานพาหนะ
สิ่งสำคัญที่ผู้ขับไม่ควรละเลยคือ การหมั่นตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยเริ่มจากการตรวจสอบระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี หากโคมแก้วเปื้อนให้เช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ความสว่างเพิ่มขึ้น และตรวจสอบอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนให้สามารถปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาด ไม่มีรอยฝ้า หรือรอยขูดขีดบนกระจก รวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอด้วย
เรื่องยางล้อรถก็สำคัญ ควรเลือกใช้ยางรถที่มีดอกยางละเอียด เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น ตลอดจนตรวจสอบผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียกลื่น หากเบรกแล้วรถมีอาการปัด ให้จัดการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ทันที
ทั้งนี้ การตรวจเช็กรถอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนออกเดินทางทุกครั้ง นอกจากจะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีจาก อายฟลีต
ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ
ตัวช่วยบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงรถ สำหรับธุรกิจที่มีรถเป็นจำนวนมาก สามารถดูแลรถได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม เป็นระบบที่มีความสำคัญมากต่อต้นทุนของบริษัท เพราะหากมีการตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ แล้วพบว่ามีจุดเสียหรือใกล้จะเสีย ก็สามารถซ่อมได้ทันเวลา ทำให้งบไม่บานปลาย ช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้นานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย
โดย ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ ( EyeFleet Maintenance ) ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บฐานข้อมูลงานซ่อมบำรุงยานพาหนะทั้งหมดในองค์กร โดยสามารถสร้างรายการบำรุงรักษา ขอซ่อม และเพิ่มข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับยานพาหนะลงในระบบได้ เช่น ทะเบียน พ.ร.บ. และประกันภัยต่าง ๆ ซึ่งระบบจะทำการแจ้งเตือนทันทีเมื่อถึงกำหนดการเข้าบำรุงรักษา หรือต่อทะเบียน เพื่อให้ยานพาหนะคงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา จึงช่วยควบคุมต้นทุน และทำให้ใช้งานยานพาหนะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งระบบยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่มขยายไปตามการเติบโตของธุรกิจคุณได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ (EyeFleet Maintenance)

ADAS ระบบขับขี่ปลอดภัย
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณไปอีกขั้นคือ ระบบขับขี่ปลอดภัย ( EyeFleet ADAS ) ช่วยป้องกัน หลีกเลี่ยง และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในขณะขับรถ ด้วยการส่งเสียงเตือนเมื่ออยู่ในสภาวะที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดพฤติกรรมเหล่านี้
1. แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
2. แจ้งเตือนเมื่อขับรถระยะกระชั้นชิด
3. แจ้งเตือนเมื่อระยะห่างจากรถคันหน้าผิดปกติ
4. แจ้งเตือนเมื่อมีคนข้ามถนนหรือเดินตัดหน้ารถ
ระบบขับขี่ปลอดภัย (EyeFleet ADAS) ถือเป็นตัวช่วยที่ดี ที่จะทำให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะฤดูฝนหรือฤดูไหน มีติดตั้งบนรถไว้ให้อุ่นใจดีกว่าครับ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ADAS ระบบขับขี่ปลอดภัย (EyeFleet ADAS)

DMS ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
หากคุณมีอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย หรือง่วงนอนในขณะที่กำลังขับรถ แล้วฝนดันเกิดตกอีก ยิ่งทำให้สภาพการจราจรแย่เข้าไปใหญ่ ระบบ DMS จะคอยเป็นผู้ช่วยเตือนสติให้คุณขับรถได้อย่างปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับใบหน้าของคนขับด้วยรังสีอินฟาเรด แล้วประมวลผลภาพเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม เมื่อตรวจพบพฤติกรรมที่เสี่ยงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งเสียงเตือนและแนะนำให้คนขับหยุดพักทันที
ส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดพฤติกรรมเหล่านี้
- การหาว ง่วงนอน อ่อนเพลีย
- การหลับตา
- ไม่มองเส้นทางการขับขี่
- คุยโทรศัพท์ในขณะขับรถ
- การสูบบุหรี่
- ตรวจไม่พบคนขับ
สำหรับใครที่ต้องขับรถคนเดียวบ่อย ๆ แนะนำเลยครับ เพราะสามารถติดตั้งได้กับยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถขนส่งในกลุ่มธุรกิจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DMS ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (EyeFleet DMS)

สรุป
นอกจาก 10 วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณขับรถได้อย่างปลอดภัยในช่วงฝนตกแล้ว การตรวจเช็กเส้นทางให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ว่าจะไปทางไหน เส้นไหนมีอุบัติเหตุบ้าง ก็จะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย โดยควรเลือกเส้นทางการจราจรที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้ไปถึงจุดหมายได้เร็วและไม่หลงทาง ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันไปด้วย และที่สำคัญควรเตรียมหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานบริการไว้ช่วยเหลือในกรณีที่รถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยนะครับ
สนใจติดตั้ง ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ (EyeFleet Maintenance) , ADAS ระบบขับขี่ปลอดภัย (EyeFleet ADAS) และ DMS ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (EyeFleet DMS) สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466