การขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ เป็นหนึ่งในการเดินทางที่สะดวก คล่องตัว และรวดเร็ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถจักรยานยนต์นั้นเป็นพาหนะที่เสี่ยงเกิดอันตรายมากที่สุดเช่นกัน จากสถิติอุบัติเหตุปีใหม่ 2565 อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์มากกว่าร้อยละ 80 ดังนั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ อายฟลีต มี 8 วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย มาฝากทุกคนกันครับ
วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย
1. เรียนรู้และฝึกฝนทักษะในการขับขี่อย่างปลอดภัย
หลายครั้งที่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ เกิดจากผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย แต่เรียนรู้วิธีการขับขี่จากสมาชิกในครอบครัวหรือฝึกขับขี่ด้วยตนเอง ดังนั้น ในชีวิตประจำวันผู้ขับขี่จึงต้องหมั่นเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ และต้องมีสติไม่ประมาททุกครั้งที่ต้องขับขี่
2. ตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนการเดินทาง
ควรตรวจสอบระบบเบรก ระบบไฟ ระบบไฟส่องสว่าง ยาง และอุปกรณ์อื่น ๆ ควรอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากมีชิ้นส่วนใดที่ไม่น่าไว้วางใจให้รีบเปลี่ยนทันที
3. ปฏิบัติตามกฎจราจร
ควรปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น ไม่ขับขี่รถเร็ว ไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขึ้นทางเท้า ไม่แทรกรถไปในช่องทางแคบ ๆ หรือช่องว่างระหว่างรถยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
4. เมาไม่ขับ
ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอ หากผู้ขับขี่สภาพร่างกายไม่พร้อม ไม่ควรขับขี่เด็ดขาด
5. ไม่ควรขับแซง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน
รวมถึงตัดหน้ากระชั้นชิดด้วย และควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว เมื่อเห็นว่าปลอดภัยค่อยเปลี่ยนทิศทางของรถ
6. หลีกเลี่ยงการขับขี่เข้าใกล้รถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือเข้าไปอยู่ในพื้นที่จุดบอดในทุกกรณี
ได้แก่ บริเวณด้านขวา และด้านหน้า เพราะความสูงใหญ่ของตัวรถทำให้มองไม่เห็นรถเล็กด้านหน้า และด้านหลังของรถบรรทุก เนื่องจากกระจกมองหลังจะไม่สามารถเห็นด้านหลังของรถได้ และด้านซ้ายของรถบรรทุก ที่มีทัศนวิสัยแคบย่อมมีโอกาสเสี่ยงอันตราย
7. สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง
ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายต้องสวมใส่หมวกกันน็อกที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจาก มอก. และใส่สายรัดคางให้แน่นกระชับพอดี ในขณะขับขี่ทุกครั้ง รวมไปถึงการแต่งกายด้วยเสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้าที่รัดกุม เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังถลอก หรือเป็นแผลรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
8. ห้ามดัดแปลงสภาพรถ
ล้อและยาง กระจกมองข้าง ท่อไอเสีย ควรเป็นไปตามมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ควรดัดแปลง หรือถอดชิ้นส่วนใดออก เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกชิ้นที่ติดตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิตผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย

เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยด้วย GPS
นอกจาก 8 วิธีขับขี่จักรยานยนต์ให้ปลอดภัยดังกล่าวแล้ว เรายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับจักรยานยนต์ของเราได้ ด้วยการติดตั้ง GPS ติดตามรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีข้อดีและสามารถแก้ปัญหาในการขับขี่และการขนส่งได้ ดังนี้
1. ป้องกันการถูกขโมยรถ
รถจักรยานยนต์มักจะถูกขโมยได้ง่าย โดยเฉพาะที่เป็นรุ่นใหม่ ๆ แต่ถ้าติดตั้ง GPS ติดตามรถแล้ว ถึงหายก็สามารถตามหาได้ เพียงแค่ดูตำแหน่งจากในแอปพลิเคชันของระบบจีพีเอส นอกจากนี้ สำหรับรถจักรยานยนต์ขนส่ง ยังเป็นการป้องกันไม่ให้พนักงานแอบนำรถไปใช้นอกเหนือจากงาน แอบเอาอะไหล่รถจักรยานยนต์ไปขาย หรือแอบเข้าอู่เพื่อแปลงระบบ เป็นต้น
2. จำเป็นต่อบริษัทขนส่ง
การติดตั้ง GPS ติดตามรถ จะช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานขับขี่ได้ง่ายมากขึ้น เช่น แวะจอดสถานที่ข้างทางแล้วพักงานนานเกินไปจนทำให้งานขนส่งสินค้าถึงลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนดหรือไม่ รวมถึงมีการแอบรับงานนอกหรือไม่ เป็นต้น
3. ช่วยประหยัดน้ำมัน
สำหรับธุรกิจที่ใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ เมื่อติดตั้ง GPS ติดตามรถแล้ว จะทำให้ทราบตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์ และสามารถดูเส้นทางการเดินทางแบบย้อนหลังได้ หากพนักงานนำรถไปใช้กับธุระส่วนตัว หรือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็สามารถทราบได้ทันที แล้วจึงเรียกมาสอบถามและตักเตือนได้ จึงช่วยประหยัดน้ำมันในการขับขี่ได้อีกทาง
ดังนั้น การติดตั้ง GPS ติดตามรถจักรยานยนต์ จึงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก อายฟลีต จึงขอแนะนำ GPS ติดตามรถจักรยานยนต์ ที่มีคุณภาพ โดยองค์กรและบริษัทชั้นนำในประเทศไว้วางใจ ต่างเลือกติดตั้งกับ อายฟลีต ซึ่งอุปกรณ์ถูกออกแบบมาให้ใช้กับรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ มาตรฐานระดับสากล ช่วยติดตามตำแหน่งรถได้แบบเรียลไทม์ ผ่านระบบติดตามแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีระบบแจ้งเตือนเมื่อขับรถเร็วเกินกำหนด และสามารถดูเส้นทางการเดินทางย้อนหลังได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ GPS รถจักรยานยนต์ (EyeFleet GPS Motorcycle) หรือ ติดต่อสอบถามที่ Line: @eyefleet | โทร. 02-052-4466

การติดตั้ง GPS ติดตามรถจักรยานยนต์ รวมถึง 8 วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย ดังกล่าว ในที่นี้เป็นเพียงส่วนสำคัญส่วนหนึ่งเท่านั้น ความตระหนักและจิตสำนึกในตัวผู้ขับขี่คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยต้องไม่ใช่แค่ขับได้ แต่ต้องขับเป็น และคำนึงถึงองค์ประกอบด้านความปลอดภัยในทุกมิติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการขนส่งทางบก