ในปัจจุบัน ระบบติดตามรถ GPS Tracking ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยดำเนินกิจการหรือองค์กรที่มีรถบรรทุกขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและจัดการยานพาหนะให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งยังมีข้อดีและประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้ อายฟลีต เลยรวบรวมประโยชน์ และข้อดีที่ได้จากการ ติด GPS รถบรรทุก มาฝากทุกคนครับ
สารบัญ
- ทำไมต้องติด GPS ให้กับรถบรรทุก?
- ติดตั้ง GPS แล้วดีอย่างไร?
- GPS สำหรับผู้ประกอบการเช่นคุณ
- คุณสมบัติเด่น ของ EyeFleet GPS Tracking
- สรุป
ทำไมต้องติด GPS ให้กับรถบรรทุก?
เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกขนส่ง ที่จดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป บางประเภท ต้องติดตั้งระบบติดตามรถ GPS Tracking โดยเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมการขนส่งทางบก เพื่อจัดเก็บข้อมูลรถทุก 1 นาที เป็นข้อมูลการใช้ความเร็ว, ชั่วโมงการขับขี่ และตำแหน่งพิกัดของรถ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งติดตามพฤติกรรมของพนักงานขับรถ เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือบริหารการขนส่งทางบกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ติดตั้ง GPS รถบรรทุก แล้วดีอย่างไร?
1) ทราบตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์
หากคุณติดตั้ง จีพีเอสติดตามรถบรรทุก คุณจะสามารถติดตามตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์ และตรวจสอบเส้นทางการเดินทางแบบย้อนหลังได้ จึงช่วยให้ทราบถึงพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับในสังกัดว่ามีการขับรถไปที่ใดมาบ้าง ขับออกนอกเส้นทางหรือไม่ อีกทั้งยังช่วยให้ทางกรมขนส่งสามารถติดตามรถได้โดยตรงด้วย
2) ตรวจสอบความเร็วในการขับขี่
เพื่อกำหนดไม่ให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด รวมถึงระยะเวลาพักรถของคนขับด้วย และสำหรับความเร็วที่กฎหมายกำหนดคือ รถบบรทุก 10 ล้อ กำหนดความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถหัวลาก กำหนดความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
3) ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ
ถึงแม้ว่ารถบรรทุกจะมีจำนวนน้อยกว่ารถประเภทอื่น ๆ ที่ใช้ถนนร่วมกัน แต่รถบรรทุกก็มีผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ของรถคันอื่น จึงเป็นสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น คนขับแซงไม่พ้น หรือจอดอยู่เฉย ๆ แล้วถูกรถคันอื่นขับมาชน ดังนั้น การติดตั้ง GPS และ เครื่องรูดบัตรใบขับขี่ จะสามารถช่วยในการควบคุมความเร็วของรถบรรทุกได้ โดยหากขับรถเร็วเกินกำหนด เครื่องรูดบัตรใบขับขี่จะส่งเสียงเตือนจนกว่าจะมีความเร็วลดลง และแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบกทุกพื้นที่ที่รถวิ่งเข้าไปในเขตนั้น ๆ เพื่อออกหนังสือไปยังผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถ
4) ป้องกันการโจรกรรม
นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว ยังคำนึงไปถึง โอกาสที่รถหาย เพราะหากติดตั้ง GPS บางเจ้า อย่างของ อายฟลีต จะมีฟังก์ชันสั่งตัดสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันทีเมื่อรถถูกโจรกรรม
5) บริหารจัดการยานพาหนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจรถขนส่ง ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ คุณจำเป็นต้องมี ระบบติดตามรถ GPS เพื่อบริหารจัดการรถให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการบริหารจัดการรถที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยประหยัดเวลาและเชื้อเพลิง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ซึ่งนั้นหมายถึงผลกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้นเอง
6) ลดปัญหาการทุจริต
การติดตามความเคลื่อนไหวของรถบรรทุกได้นั้น จะช่วยให้เจ้าของรถทราบถึงพฤติกรรมของพนักงานขับรถได้ตลอดเวลา จึงช่วยลดปัญหาที่พนักงานจะแอบนำรถไปทำธุระส่วนตัวหรือแอบถ่ายน้ำมันไปขาย ซึ่งหากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยเหล่านี้ ทางผู้ประกอบการจะได้พิจารณาตักเตือนหรือลงโทษพนักงานที่มีพฤติกรรมทุจริตได้ทันที
7) ช่วยประหยัดพลังงาน
การติดตั้งระบบ GPS ติดตามรถบรรทุก จะช่วยให้ทราบว่าพนักงานขับรถบรรทุกมีการวิ่งออกนอกเส้นทางหรือไม่ มีการติดเครื่องทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ เกินความจำเป็นหรือไม่ ทั้งยังสามารถคำนวณการใช้พลังงานของเครื่องยนต์แต่ละครั้งเมื่อวิ่งตามเส้นทางที่กำหนดได้อีกด้วย ทำให้ทราบว่าจะต้องตักเตือนพนักงานขับรถให้เพิ่มความระมัดระวัง และลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่มากเกินความจำเป็นให้ลดน้อยลง
8) ใช้เป็นหลักฐานสำคัญ
หากเกิดอุบัติเหตุในระหว่างขับรถ ถูกกล่าวอ้างว่ารถมีการเฉี่ยวชนกัน หรือรถทำอันตรายต่อผู้คน ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการติดตามรถบรรทุกผ่าน ระบบ GPS มาตรวจสอบได้ว่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริงหรือไม่ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้
9) ความสะดวกในการติดตามรถบรรทุก
ระบบติดตามรถ GPS ส่วนใหญ่จะสามารถติดตามผ่านเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันได้ เพียงแค่คุณมีอินเตอร์เน็ต จึงช่วยให้การติดตามรถบรรทุกเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
GPS สำหรับผู้ประกอบการเช่นคุณ
สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหา GPS สำหรับติดตามรถบรรทุก อายฟลีต เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ จีพีเอสติดตามรถบรรทุก ( EyeFleet GPS Tracking ) ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งช่วยให้การติดตามรถบรรทุกของคุณเป็นเรื่องง่าย ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ทันสมัย และมีประสิทธิภาพที่สุด

คุณสมบัติเด่น ของ EyeFleet GPS Tracking

แสดงรายละเอียดของรถแต่ละคัน
แสดงรายละเอียดรถ เช่น ชื่อรถ สถานะ ทะเบียน ความเร็ว รหัสบัตรใบขับขี่ น้ำมัน วันเวลาที่อัพเดท และตำแหน่งปัจจุบันของรถ

แจ้งเตือนสถานะของรถ ผ่านแอปพลิเคชัน
แจ้งเตือนสถานะของรถ เช่น จอด เดินเบา วิ่ง ความเร็วเกินกำหนด และแจ้งเตือนการวิ่งเข้า-ออกพื้นที่ที่ตั้งค่าไว้

ดูประวัติการเดินทางย้อนหลัง
แสดงประวัติการเดินแบบย้อนหลัง พร้อมบอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น วัน เวลา และสถานที่ เป็นต้น

รายงานการเดินทาง
สามารถพิมพ์รายงานสรุปการเดินทาง เข้า-ออกสถานี ได้ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

แชร์หรือติดตามรถ
สามารถแชร์รถเพื่อให้ผู้อื่นติดตามตำแหน่งรถของคุณได้ รวมถึงกดติดตามรถของผู้อื่นในสังกัดของตัวเองได้เช่นเดียวกัน

ติดตั้งได้กับยานพาหนะทุกประเภท
สามารถใช้งานได้กับยานพาหนะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะส่วนบุคคล หรือแบบยก Fleet

ใช้งานได้ทั่วประเทศไทย
สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย
สำหรับระบบติดตามรถ จีพีเอสอายฟลีต ไม่เพียงแค่ใช้ในการติดตามตำแหน่งปัจจุบันของรถ หรือการกำหนดความเร็วของรถเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีการพัฒนาระบบให้ทันสมัยและรองรับการใช้งานที่หลากหลายอย่างการติดตั้งอุปกรณ์เสริมจีพีเอสต่าง ๆ เช่น เครื่องรูดบัตรใบขับขี่, กล้อง CCTV, เซนเซอร์วัดระดับน้ำมันแบบอัลตราโซนิก, เซนเซอร์ตรวจจับการเปิด-ปิดถังน้ำมัน, เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ, เซนเซอร์ตรวจจับการเปิด-ปิดประตูสินค้า, เซนเซอร์วัดระดับลมยางรถบรรทุก และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยสามารถเรียกดูรายงานสรุปข้อมูลต่าง ๆ ได้ทั้งแบบรายวัน/เดือน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยบริหารจัดการระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของธุรกิจคุณ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : EyeFleet GPS Tracking
สรุป
เนื่องจากรถบรรทุกเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้า ซึ่งต้องเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เกือบตลอดเวลา และหลายครั้งที่รถบรรทุกประสบอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ยากที่จะค้นหาและดำเนินการแก้ไขได้ทัน ทำให้มีการนำระบบ GPS ติดตามรถบรรทุกมาใช้งาน เพื่อติดตามตำแหน่งของรถบรรทุกได้ตลอดเวลา และเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน สนใจติดตั้ง จีพีเอสรถบรรทุก ติดต่อได้ที่ : Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : กรมการขนส่งทางบก