สำหรับรถโดยสารสาธารณะที่ ควบคุมความเร็วของรถโดยสารไม่ได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ทราบหรือไม่ว่ามีโทษหนักทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการเองด้วยนะครับ แต่ อายฟลีต สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถด้วยความเร็วสูงได้ ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันครับ
สารบัญ
ในปัจจุบัน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะรถเมล์ รถบัส รถทัวร์ หรือรถตู้ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุนั้นคือ การขับรถเร็วเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด โดยอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงนั้น มักจะเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง รวมไปถึงการขับผิดช่องทางการจราจร การขับสวนทาง การแซงรถในที่คับขัน การตัดหน้ารถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด และการเมาแล้วขับ ล้วนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดจากผลการวิจัยทั่วโลก
จึงได้สรุปตรงกันว่า การบังคับใช้กฎหมายในเรื่องของการขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จะนำไปสู่การแก้ไขและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างตรงจุด ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จำเป็นจะต้องมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมในการป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนด
มาตรการควบคุมความเร็วของรถโดยสารสาธารณะ
กรมการขนส่งทางบก ได้กำชับให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการตรวจสอบและควบคุมการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะทุกคันที่ออกเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลที่จะมีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ให้ตรวจสอบความพร้อมของรถและผู้ขับขี่ ดังนี้
ด้านตัวรถ
ต้องตรวจสอบการทำงานของระบบ GPS Tracking ให้ส่งข้อมูลแจ้งตำแหน่งของรถปรากฏที่ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขการตรวจความพร้อมก่อนให้บริการตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด หากพบว่า ระบบ GPS Tracking ขัดข้องไม่สามารถแก้ไขได้ ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดหารถคันใหม่ทดแทนทันที
ตรวจสภาพความพร้อมของรถและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย หากพบความบกพร่องที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ทดแทนเช่นกัน
ด้านพนักงานขับรถ
กำชับให้พนักงานขับรถทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
ต้องขับในเลนซ้ายสุด เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจรของรถประเภทอื่น
ชั่วโมงการทำงานต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ผู้ขับขี่ควรมีความพร้อมในการขับรถ โดยต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่ใช้สารเสพติด และแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถบรรทุก จะมีการติดตามการเดินรถผ่านระบบ GPS Tracking และตรวจจับความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์เช่นเดียวกับรถโดยสารสาธารณะ โดยขอความร่วมมือรถบรรทุกให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีประชาชนใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ดังนี้
ขับรถโดยใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และให้เหมาะสมกับสภาพถนน
ใช้ช่องทางจราจรซ้ายสุด ส่วนกรณีที่ต้องใช้เส้นทางที่มีช่วงขึ้นเขาลงเขา ขอให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีประชาชนใช้ถนนจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการชะลอตัวและปัญหาการจราจรติดขัด
ปฏิบัติตามข้อบังคับของหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย เช่น สายเหนือ ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ช่วงนครสวรรค์ ถนนรังสิโยทัย (ทางหลวงหมายเลข 117) สายอีสาน ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) สระบุรี ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) แก่งคอยถึงสีคิ้ว ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) บุรีรัมย์-อรัญประเทศ (ทางหลวงหมายเลข 348)
ในระหว่างการขนส่ง ห้ามจอดรถบริเวณไหล่ทางโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการขนส่งต้นสังกัดที่ไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว
เทคโนโลยีที่จะช่วยควบคุมความเร็วของรถโดยสาร
เนื่องจากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นคือ “การขับรถเร็วเกินกำหนด” ผู้ประกอบการทุกคนจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความปลอดภัยในการให้บริการรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกขนส่งสินค้า โดยต้องติดตั้งระบบติดตามรถ GPS Tracking ตามประกาศจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อติดตามและตรวจสอบการเดินรถได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจอด เดินเบา วิ่ง หรือขับเร็วเกินกำหนด ก็สามารถทราบได้ทันที และกรมการขนส่งฯ จะเพิ่มความถี่ในการออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางสายหลักด้วย
หากพบการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะประสานงานกับผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระงับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ต้องเดินทางบนท้องถนนให้มีความปลอดภัยสูงสุด
เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับ จอแสดงผลความเร็วรถ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถโดยสารสาธารณะได้มากยิ่งขึ้น คือการติดตั้ง จอแสดงผลความเร็วรถ (EyeFleet Speed Display) โดยจะช่วยให้ผู้โดยสารทราบความเร็วของรถได้แบบเรียลไทม์ ด้วยการดูผ่านหน้าจอ LED ที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้ารถ จึงช่วยป้องกันมิให้ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนขับรถเร็วเกินกำหนด ส่งผลให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง อีกทั้งยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิง เพราะเมื่อมีการขับรถด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิง แต่หากสามารถควบคุมความเร็วรถได้ ก็จะทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย
คุณสมบัติเด่น
วัดความเร็วรถ
จากระบบ GPS
แสดงผลความเร็วรถ
ด้วยหน้าจอ LED
มีความเสถียร
และความแม่นยำสูง
บันทึกความเร็วรถ
โดยสามารถดูย้อนหลังได้จากระบบ GPS
สรุป
การขับรถเร็วเกินกำหนดนั้นอาจเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตราย หากผู้ขับขี่ไม่มั่นใจ หรืออยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยง ก็ควรลดระดับความเร็วให้ลดลง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของรถและตัวผู้ขับขี่เองก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างการติดตั้ง ระบบติดตามรถ GPS Tracking และ จอแสดงผลความเร็วรถ ก็จะช่วยให้ผู้ขับมีสติ ไม่ฝ่าฝืนทำผิดกฏจราจร หรือหากผู้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในระหว่างขับรถ ก็ควรจอดพักจนกว่าจะพร้อมออกเดินทางต่อไป ซึ่งการกระทำต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การขับขี่รถเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจติดตั้ง ระบบติดตามรถ GPS Tracking และ จอแสดงผลความเร็วรถ สำหรับรถโดยสาร สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการขนส่งทางบก
สินค้าที่เกี่ยวข้อง

จีพีเอส ติดตามรถยนต์
ติดตามรถยนต์ได้ทุกประเภท ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก บอกตำแหน่งได้แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบแจ้งเตือน และรายงานสรุป เพื่อนำไปวางแผนการเดินรถให้มีประสิทธิภาพ