รู้ทันโจร !! เทคนิคการขโมยรถ และวิธีป้องกัน

รู้ทันโจร

เตือนภัย!! สำหรับคนใช้รถ สิ่งที่คุณต้องระวังในการใช้รถ ไม่ว่าจะไปจอดรถที่ไหนก็ตาม ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะการโจรกรรมรถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ยิ่งเป็นตอนที่คุณประมาท รถของคุณยิ่งเป็นเป้าหมายได้ง่ายกว่าเดิม วันนี้ อายฟลีต จะมาเปิดเผยเทคนิคการโจรกรรมรถในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้ รู้ทันโจร พร้อมนำวิธีป้องกันมาฝากกันด้วยครับ

เทคนิคการโจรกรรมแบบต่าง ๆ

1. การทุบกระจกรถ

ถือเป็นวิธีการขโมยรถแบบธรรมดาทั่วไป โดยคนร้ายจะเอาเหล็กแหลม ๆ ค่อย ๆ กะเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว และใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง จนกระจกแตกออกทั้งบาน แล้วใช้มือล้วงเปิดตัวล็อกกุญแจออก

2. การงัดประตูหูช้าง

สำหรับรถรุ่นเก่า ๆ ที่เป็นประตูหูช้าง ต้องระวังไว้ให้ดี เพราะคนร้ายสามารถงัดประตูหูช้างได้โดยใช้ลวดแข็ง ๆ งอเป็นตัวยู สอดเข้าไประหว่างกระจกแค็ปแล้วงัดแรง ๆ จนกระจกเปิดออก แล้วใช้มือเอื้อมมาเปิดตัวล็อกประตูได้อย่างง่ายดาย เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปได้ จะใช้ไขควงงัดกระปุกกุญแจสตาร์ทออก แล้วต่อไฟตรง เพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป

3. ใช้กุญแจปลอม

การแอบปลอมกุญแจรถนั้นมีหลากหลายวิธี ดังนี้ 

  • แอบปลอมกุญแจเวลาที่คุณทำกุญแจสำรอง 

  • เวลาไปอู่ซ่อม หรือล้างรถ 

  • ทำกุญแจเลียนแบบรถชนิดที่ต้องการลักไว้หลาย ๆ ขนาด (รอยหยัก) แล้วลองใช้ทุกดอกที่ทำไว้

  • หากซื้อรถจากโชว์รูมหรือเต็นท์ขายรถมือสอง
    อาจแอบปั้มกุญแจไว้ ซึ่งคนร้ายจะติดตามมาถึงบ้านหรือที่จอดรถประจำเพื่อทำการขโมย

4. ใช้ลวดแข็งเกี่ยวที่ล็อกประตู

ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถแล้วเรียกช่างมาปลดล็อกกุญแจให้ คงจะเคยเห็นว่า ช่างจะใช้ลวดเชื่อมยาว ๆ เบอร์แข็ง ๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก และใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อกให้เด้งขึ้น เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูขึ้น หรือใช้ฟุตเหล็กแยงให้ตรงกับคันชักกลอนประตูให้เด้งลง หรือใช้ลดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อมาดันตัวกดล็อกให้เด้งขึ้น วิธีนี้ถ้าช่างที่มีความชำนาญจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

5. ใช้เหล็กแข็งแทนกุญแจ

คนร้ายจะใช้เหล็กแข็งที่มีขนาดเท่ากุญแจรถ (ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉาก เป็นสแตนเลสที่มีความแข็ง) ตีเข้าที่รูกุญแจแล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล็อกเปิดออก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนร้ายชอบใช้กันด้วย

6. ใช้น้ำกรด

คนร้ายจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้น ฉีดเข้าไปในช่องกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง และสปริงเล็ก ๆ ในแม่กุญแจ และเมื่อเข้ามาในรถได้แล้ว ยังสามารถใช้น้ำกรดทำลายล็อกพวกมาลัย เกียร์ และครัชได้อีกด้วย

7. ช็อตวงจรไฟฟ้า 

บางคนอาจจะคิดว่าการใช้กุญแจรีโมตนั้นปลอดภัยแน่ แต่จริง ๆ แล้วกลับง่ายต่อการต่อลัดวงจรไฟฟ้า เช่น วงจรไฟเลี้ยว ในชุดรีโมตแบบธรรมดา หรือถ้าเป็นรถยุโรปด้วยแล้วกลับเป็นเรื่องง่าย ตัวล็อกจะเด้งหลุดทันที

8. จูนสัญญาณจากรีโมต 

เวลาจอดรถในห้างสรรพสินค้า พอเรากดรีโมตล็อกปุ๊ป คนร้ายก็จะมีเครื่องมือมาจับสัญญาณความถี่ แล้วหาก็อปปี้ความถี่มาใช้ยิงเปิดประตูได้เลย แบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่อันตรายมาก

9. เปิดกระจกหลังรถ

คนร้ายจะใช้ไขควงงัดยางขอบกระจกหลังรถออก แล้วเปิดกระจกออกด้วยแรงดึง ซึ่งคนร้ายที่ใช้วิธีการนี้ จะเคยเป็นช่างถอดหรือใส่กระจกมาก่อน เมื่อถอดกระจกออกมาได้แล้วจะมุดตัวเข้าไปในรถ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรงเพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับรถหลบหนีไป

10. การจี้ปล้น

อย่างที่เคยได้เห็นกันตามข่าวหรือหนังสือพิมพ์ เช่น การวางเรือใบ ดักซุ่มในที่เปลี่ยว โดยใช้อาวุธปืนหรือมีดปลายแหลมจี้ให้ลงจากรถ แล้วคนร้ายก็ขับรถเอาไปซึ่งหน้า แต่ที่เห็นเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้คือ การลวงซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต แล้วขอนัดดูในที่เปลี่ยว ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้มาขอซื้อรถหรอกครับ แต่อาจจะขอไปใช้กันฟรี ๆ เลยก็ได้

11. ยกรถไปทั้งคัน

เป็นอีกวิธีที่ง่ายเช่นกัน เนื่องจากคนร้ายบางคนอาจจะใช้วิธีเอารถยกมายกไปเลย แบบนี้อย่าคิดว่าขำนะครับ เพราะเป็นวิธีที่โจรบางพวกนิยมใช้กันจริง ๆ เมื่อยกรถแล้วจะหาทางเข้าที่เปลี่ยว ๆ แล้วค่อยทำการปลดล็อกทีหลัง

Different types of cars theft

ขโมยแล้วเอาไปไหน?

1. ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน 

ถ้าเป็นรถใหม่จะนำส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้วิธีเอาลงแพ แล้วใช้ไม่ลวกถ่อข้ามแม่น้ำไป สำหรับราคาขายในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่เกินหลักแสนบาท

2. แยกขายเป็นอะไหล่มือสอง

ถ้าเป็นรถเก่าหน่อย คนร้ายจะนิยมเอามาแยกขายอะไหล่ และถ้าสังเกตกันดี ๆ มีหลายร้านที่มีอะไหล่ทั้งนอกและในบ้านเราผสมอยู่ก็ไม่น้อย ลักษณะพวกนี้จะทำงานเป็นออเดอร์สั่งมาเลย อยากได้รุ่นไหน สีอะไรเป็นต้องได้ พวกนี้จะนำมาแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาซ่อมรวมกับรถที่เกิดอุบัติเหตุแบบสาหัส ที่ต้องการอะไหล่แบบครึ่งคันหรือใช้เกือบทั้งคันเลยก็มี

3. สวมทะเบียน 

นำมาสวมกับทะเบียนรถอุบัติเหตุแบบซ่อมไม่ได้แล้ว ใช้แค่ทะเบียนกับหมายเลขตัวถัง และหมายเลขเครื่องเดิมนำมาต่อใส่ แล้วเก็บสีให้สวยก็ขายได้แล้ว สมัยนี้ช่างฝีมือ และเทคนิคใหม่ ๆ มีเยอะ ขนส่งยากที่จะจับได้

4. ทำทะเบียนปลอม 

แบบสุดท้ายคือใช้รถแบบนั้นไปเลย แล้วทำทะเบียนปลอมขึ้นมา (จากขนส่ง) สามารถต่อทะเบียนวิ่งได้ทุกปี จนถึงปีที่ 6 ต้องตรวจ ต.ร.อ. ก็ไม่สามารถทำได้เพราะกลัวตรวจสอบเจอ ก็นำไปแยกขายอะไหล่อีกที

Second hand parts

การดูแลและวิธีป้องกันรถหาย

ปัจจุบัน มีวิธีการดูแลและวิธีป้องกันรถหายด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อมาหยุดยั้งการโจรกรรมรถ ดังต่อไปนี้

1. ใช้อุปกรณ์ล็อกเกียร์

แนะนำให้ใช้ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง วัสดุเป็นสแตนเลส หรือเหล็กกล้าอย่างดี ถ้าเป็นแบบของแถมราคาถูกต้องขอบอกตรง ๆ เลยครับว่าเหมือนของประดับรถมากกว่า

2. ใช้อุปกรณ์ล็อกพวงมาลัย

ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ดี เพราะคนร้ายต้องใช้เวลาในการปลดล็อกเพิ่มขึ้น คนร้ายอาจใช้วิธีขันพวงมาลัยออกมาปลดล็อก หรือตัดพวงมาลัยออกแบบพวงมาลัยเครื่องบิน แล้วขับหนีกันไปแบบนั้นเลย

3. ใช้อุปกรณ์ล็อกเบรคครัช

เป็นแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ผลิตกันมามากมายหลายยี่ห้อ การล็อกแบบนี้จริง ๆ แล้วถือเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมาก บางรุ่นคนร้ายอาจต้องใช้แก็สตัดเพื่อปลดล็อกเลยก็ได้

4. ไม่จอดรถในที่เปลี่ยว 

เวลาหาที่จอดรถ ไม่ควรจอดในที่เปลี่ยว หรือลับตาคน หากจำเป็นต้องจอดค้างคืนไว้ควรเลือกที่จอดที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้คนร้ายขโมยไปได้ง่าย ๆ

5. ป้องกันการถูกปั้มกุญแจ 

ยกตัวอย่างเช่น เวลานำรถไปซ่อมตามอู่ หรือล้างอัดฉีด คนร้ายอาจใช้เวลาที่เราเผลอ แอบปั้มลูกกุญแจและสะกดรอยตาม ดังนั้น เวลานำรถไปซ่อมหรือล้าง ควรทิ้งไว้เฉพาะกุญแจรถเท่านั้น กุญแจล็อกแบบอื่น ๆ ต้องเก็บไว้ให้หมด

6. ป้องกันการถูกล่อลวง 

ในการติดต่อขอซื้อรถ หากมีการนัดพบในที่เปลี่ยวหรือที่ลับตาคน ควรหลีกเลี่ยง และแนะนำเป็นที่ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือมีกล้องวงจรปิดอยู่

7. เป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจ 

ถ้าพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมหรือกำลังโจรกรรมรถ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

เทคโนโลยีที่จะช่วยติดตามรถกลับมาได้ง่าย ๆ

หลาย ๆ คนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า GPS Tracking ใช้ในการติดตามรถได้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเวลาที่รถหาย แม้รถจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็หาเจอได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าเป็น GPS Tracking ของ EyeFleet แนะนำเลยครับ เพราะเป็นรุ่นที่ใช้งานง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ได้กับยานพาหนะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก, เทรลเลอร์, กระบะ, รถโดยสาร, รถตู้ และรถยนต์ส่วนบุคคล 

หากพูดถึง GPS ติดตามรถ รุ่นนี้ สามารถบอกข้อมูลได้อย่างละเอียดเลยครับ โดยให้ข้อมูลแบบ Real-Time ซึ่งจะแสดงตำแหน่งปัจจุบันของรถ สถานะการเดินเบา การวิ่ง และแจ้งเตือนเมื่อขับเร็วเกินกำหนด สามารถดูเส้นทางการเดินทางย้อนหลัง และปริ้นท์สรุปรายงานแบบออนไลน์ได้ มีความเสถียรและแม่นยำสูง ใช้งานง่าย ผ่านเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชัน EyeFleet ทั้งระบบ Android และ iOS ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในแวดวงรถบรรทุก และรถโดยสารต่าง ๆ เนื่องจากเป็น GPS ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามประกาศจากกรมการขนส่งทางบก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จีพีเอสติดตามรถยนต์ อายฟลีต

GPS for Truck

เมื่อรถหายแล้วควรทำอย่างไร?

  • แจ้ง จส.100 

สายด่วนรถหาย ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-7119160 เพื่อออกอากาศในสถานีวิทยุเผื่อมีผู้พบเห็นรถที่หายขับอยู่บนท้องถนน

  • โทรแจ้ง ศปร.ตร ที่เบอร์ 1192 

เพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวไปในทุกหน่วยงานในพื้นที่

  • แจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้ ๆ ให้รวดเร็วที่สุด 

เพื่อตำรวจจะได้รีบออกติดตามคนร้ายได้ทัน 

  • บอกต่อเพื่อนฝูง 

คนสนิทที่รู้จักทั้งหมด ให้รีบกระจายข่าวเพื่อไล่ออกติดตาม

  • ติดตาม และสอดส่อง

ในจุดที่สันนิฐานว่าคนร้ายใช้เส้นทางใดหลบหนี หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดี

สรุป

หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้รู้เท่าทันโจร รู้เทคนิคการโจรกรรมรถในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นใหม่ หรือรถรุ่นเก่าก็ตาม ล้วนเป็นเป้าหมายในการถูกโจรกรรมได้ทั้งนั้น ซึ่งเจ้าของรถเองก็ต้องหาตัวช่วยในการป้องกัน หรือทำให้การโจรกรรมนั้นยากขึ้น ด้วยอุปกรณ์ล็อคพวกมาลัย ล็อคเกียร์ และล็อคครัช หรืออาจจะใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย อย่าง GPS ติดตามรถ ที่จะช่วยติดตามรถของคุณกลับมาได้ทันท่วงที 

อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถเองก็ต้องมีความระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรจอดรถในที่เปลี่ยว หรือลับตาคน ควรเลือกจอดในที่ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด และตรวจสอบรถอีกครั้งหลังล็อกรถ รวมถึงเช็กระบบกันขโมยอย่างสม่ำเสมอ ไม่หลงเชื่อคนแปลกหน้า ไม่ทิ้งกุญแจไว้กับใครถ้าไม่จำเป็น พยายามอย่าให้กุญแจรถของคุณคลาดสายตาเมื่อต้องใช้บริการตามศูนย์ ร้านล้างรถ หรืออู่ซ่อม เพื่อลดความเสี่ยงที่รถจะถูกโจรกรรม


>> สนใจติดตั้ง GPS ติดตามรถ สามารถติดต่อได้ที่ Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.