หลับใน ขณะขับรถ อันตรายถึงชีวิต!

หลับใน

หลายครั้งที่อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีสาเหตุมาจากการ “ หลับใน ” ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ การใช้ยาที่มีผลข้างเคียง ทำให้เกิดอาการง่วง หรือการดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงความเหนื่อยล้าจากการขับรถมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ซึ่งมีผลมากถึง 10 เท่าของเวลากลางวัน จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น แล้วเราจะมีวิธีป้องกัน หรือกำจัดความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในขณะขับรถได้อย่างไร วันนี้ อายฟลีต มีคำตอบ

ความเหนื่อยล้าส่งผลต่อการขับขี่อย่างไร?

ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในขณะขับรถทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง โดยสาเหตุสำคัญอย่างน้อย 20% ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจราจรทั่วโลกมาจาก “ อาการง่วง ” เนื่องจากคนง่วงจะมีประสิทธิภาพในการขับรถคล้ายกับคนเมา และผลจากความง่วงที่ร้ายแรงที่สุดคือ “ หลับใน ” หากผู้ขับเกิดอาการง่วง จะมีโอกาสวูบหลับที่ใช้เวลาเพียง 3–5 วินาที ก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

โดยผู้ขับจะเริ่มมีอาการหาวไม่หยุด ลืมตาไม่ขึ้น ประสาทสัมผัสช้าลง ควบคุมพวงมาลัยไม่ค่อยอยู่ และผู้ขับอาจไม่รู้ตัวเลยว่ารถกำลังวิ่งไปในทิศทางไหน จึงไม่ได้หักหลบหรือเหยียบเบรก ดังนั้น เวลาที่เกิดอุบัติเหตุจึงทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในบางรายก็รุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิต

Fatigue Affects

ฉันจะกำจัดความเหนื่อยล้านี้ได้อย่างไร?

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ถือเป็นวิธีที่จะจัดการกับความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้ดีที่สุด ซึ่งก่อนการเดินทางควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง 

2. เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างขับรถ 

เราขอแนะนำให้คุณจอดรถงีบหลับสัก 15 นาที แต่อย่านานกว่านี้นะครับ เพราะสมองจะมึน ไม่สดชื่น และควรหยุดพักรถเป็นประจำอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง แล้วลงไปยืดแข้งยืดขา ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น

3. ดื่มกาแฟ 

เทคนิคคือ ให้ดื่มก่อนจะงีบ เนื่องจากกาแฟไม่ได้ออกฤทธิ์ทันที แต่จะออกฤทธิ์ให้หลัง เมื่อ 10-15 นาทีไปแล้ว วิธีนี้จะตื่นพอดีและสดชื่นทันก่อนออกรถอีกครั้ง 

4. เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือของขบเคี้ยวอื่น ๆ

วิธีนี้จะช่วยให้ปากขยับ และส่งสัญญาณไปไล่ความง่วงได้ 

5. อย่าใช้ยาที่ทำให้เกิดความง่วงก่อนขับรถ หรือระหว่างเดินทาง

รวมถึงในคืนก่อนเดินทาง ควรงดแอลกอฮอล์ 

6. ติดตั้งระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ 

หรือที่เรียกว่า DMS ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่  (Driver Monitoring System) ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะจะช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัย และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับในได้

ติดตั้ง DMS แล้วดีอย่างไร?

เพื่อช่วยเตือนเมื่อผู้ขับมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือหลับใน ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าและม่านตาของผู้ขับขี่ ซึ่งอาจแปรผันไปตามสภาวะอากาศหรือตามช่วงเวลาของวัน เมื่อผู้ขับขี่ว่อกแว่ก ขาดสมาธิ หรือไม่มองเส้นทางการขับขี่ ระบบจะส่งเสียงเตือนทันทีเพื่อให้ผู้ขับรู้สึกตัว จึงช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

“ยกตัวอย่างจากลูกค้าของเราที่ขับรถรับส่งผู้โดยสารจากกรุงเทพ-ต่างจังหวัด รวมถึงรถบรรทุกขนส่งสินค้าเช่นกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการขับรถนานหลายชั่วโมง จึงทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า และเผลอหลับในอยู่บ่อยครั้ง ผู้ประกอบการจึงตัดสินใจติดตั้งระบบ DMS ของ อายฟลีต ซึ่งเป็นระบบที่จะคอยส่งเสียงเตือนทุกครั้งที่ผู้ขับเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย หรือละสายตาจากถนน ทำให้ผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น”

DMS

การทำงานของระบบ DMS 

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ระบบ DMS ก็เปรียบเสมือน กล้องส่องคนขับ จะทำงานหลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเริ่มตรวจดูพฤติกรรมด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าและม่านตา แล้วประมวลภาพเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ เมื่อตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของม่านตาและวิเคราะห์พฤติกรรม หากตรงกับลักษณะของอาการอ่อนเพลีย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนในรูปแบบเสียง อีกทั้งยังสามารถแยกแยะอาการหลับในที่แท้จริงกับอาการหลับที่เป็นธรรมชาติ จึงช่วยลดการเตือนที่ผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดพฤติกรรมเหล่านี้

  • พฤติกรรมการหาว ง่วงนอน อ่อนเพลีย (Fatigue Detection)
  • พฤติกรรมการหลับตา (Eyes Closed Detection)
  • พฤติกรรมการคุยโทรศัพท์ (Phone Call Detection) 
  • พฤติกรรมการไม่มองเส้นทางการขับขี่ (Distraction Detection) 
  • พฤติกรรมการสูบบุหรี่ (Smoking Detection) 

ระบบ DMS ของ อายฟลีต

EyeFleet DMS หรือ Driver Monitoring System คือ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ โดยมีเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้าบุคคลด้วยรังสีอินฟาเรด ทำหน้าที่ประมวลผลภาพและวิเคราะห์พฤติกรรม หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือหลับในขณะขับรถ ระบบจะส่งเสียงเตือนและแนะนำให้คนขับหยุดพักทันที

ซึ่ง กล้องตรวจจับความเหนื่อยล้า ของ อายฟลีต รุ่นนี้ มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย ขนาดเล็ก และติดตั้งง่าย ไม่บดบังทัศนียภาพของผู้ขับขี่ โดยสามารถใช้กับบุคคลที่สวมใส่แว่นตาหรือแว่นตากันแดดได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่จะถูกเตือนเมื่อเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใด ๆ จึงช่วยป้องกันชีวิตและทรัพย์สินได้ เหมาะสำหรับยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และรถขนส่งในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ

DMS EyeFleet

สรุป

ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุนั้นจะคาดเดาได้ยาก แต่เราสามารถลดอัตราการเกิดและความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดจากความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ผู้ขับขี่ควรให้ความสำคัญโดยเริ่มต้นจากการเตรียมตัวเองให้มีความพร้อมในการขับรถ และการติดตั้ง ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Monitoring System) ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ DMS ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก: สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.