ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ก่อนเดินทางปีใหม่ เริ่ม 1-31 ธ.ค. 64

ตรวจรถฟรี

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ หลาย ๆ คนอาจจะขับรถเดินทางไกลเพื่อกลับบ้านไปหาครอบครัว หรือขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักกันมาทั้งปี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและความราบรื่นในการเดินทาง ไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหารถเสียระหว่างทาง กรมการขนส่งทางบก จึงได้จัดกิจกรรม “ ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ” เชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เข้าตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทางปีใหม่นี้ ฟรี!!! ตลอดเดือนธันวาคม 2564 พร้อมบอกวิธีขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยที่สุดมาฝากทุกคนกันครับ

กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

มอบของขวัญปีใหม่ 2565 โดยจัดกิจกรรม “ ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ” เชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เข้าตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทางปีใหม่นี้ ฟรี!!! ตลอดเดือนธันวาคม 2564

Free car inspection by Department of Land Transport

กรมขนส่งฯ จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ทุกช่วงวันหยุดต่อเนื่องโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง เพื่อให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของรถก่อนการเดินทาง กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากกว่า 20 หน่วยงาน อาทิ ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริษัทประกันภัย สถานตรวจสภาพรถเอกชน ศูนย์บริการน้ำมัน และศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส LPG/NGV จัดกิจกรรม “ ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ” ตลอดเดือนธันวาคม (ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564) เพื่อให้ประชาชนนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อเข้ารับบริการได้ฟรี ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ”

เป้าหมายในการจัดกิจกรรม

เพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้เจ้าของรถเห็นถึงความสำคัญของการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ส่วนควบของรถก่อนการเดินทางทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในระยะทางใกล้หรือไกล เนื่องจาก การใช้งานรถที่มีสภาพไม่พร้อมหรือเครื่องยนต์ของรถทำงานผิดปกติ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเมื่อทราบว่าต้องขับรถเป็นระยะทางไกล ๆ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หากมีอาการเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทางควรหยุดพักในจุดที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย และไม่ละเลยการป้องกันตัวเองตามมาตรการด้านสาธารณสุข ป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2565 เป็นการเดินทางวิถีใหม่ที่มีความสุขและความปลอดภัยอย่างแท้จริง

บริการตรวจเช็กอะไรให้บ้าง?

มีบริการตรวจเช็กสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัตช์ ความตึงของสายพาน แบตเตอรี่ และการทำงานของไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งจะได้รับการดูแลจากช่างผู้ชำนาญงาน เพื่อให้สภาพรถพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยสำหรับการเดินทางไกลในเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ บางหน่วยงานยังมีส่วนลดค่าอะไหล่บางรายการ มีของที่ระลึก รวมไปถึงบริการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้แก่เจ้าของรถอีกด้วย

Free Car inspection service

ตรวจฟรี!! ณ หน่วยงานที่มีป้ายเข้าร่วมโครงการ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กิจกรรมตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย เป็นหนึ่งในกิจกรรมรณรงค์เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ในช่วงเทศกาลสำคัญของประชาชน ที่กรมการขนส่งทางบกได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความห่วงใย และต้องการส่งมอบความปลอดภัยให้แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

  1. ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.)

  2. สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย

  3. สมาคมการค้าไทย-ยุโรป (TEBA)

  4. สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย

  5. สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์

  6. สถาบันยานยนต์

  7. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

  8. บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

  9. บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

  10. บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลล์ จำกัด

  11. บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

  12. บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

  13. บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด

  14. บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

  15. บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด

  16. บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด

  17. บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด

  18. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

  19. บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)

  20. บริษัท บี-ควิก จำกัด

  21. บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AutoQuiks)

  22. บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด

  23. บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด

  24. บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

  25. บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

  26. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสําคัญต่อการใช้รถใช้ถนน เนื่องจากเป็นผลดีต่อทั้งตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทาง แต่ปัจจุบันสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นก็ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อตัดปัจจัยของการเพิ่มปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ที่มีโอกาสทําให้ตัวเลขผู้ประสบอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นแล้ว “ความประมาท” และ“การขาดความรู้เรื่องการใช้รถใช้ถนน” น่าจะเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุอันน่าสลดเหล่านี้ ซึ่งการเป็นนักขับรถที่ดี ไม่ใช่จะขับรถเป็นอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนในหลาย ๆ ด้าน

  • ข้อควรรู้กรณีเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัว

1. ปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุ

 – สภาพของรถ

– สภาพถนนหนทาง และสภาพแวดล้อม

 – ผู้ขับขี่

2. สาเหตุสําคัญที่ทําให้เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากตัวผู้ขับขี่

– การขับรถเร็วเกินอัตราความเร็วที่กฎหมายกําหนด

– การขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด

– การแซงรถอย่างผิดกฎหมาย

– การขับรถโดยที่ไม่เปิดไฟส่องสว่างในตอนกลางคืน

– การขับรถโดยไม่ให้สัญญาณก่อนจอดรถ ชะลอรถ และเลี้ยวรถ

  • ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยตามหลัก “5 ร.” จาก กองบังคับการตํารวจจราจร

1. รอบรู้เรื่อง “รถ”

ควรหมั่นตรวจดูสภาพรถเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่จะต้องขับรถระยะทางไกล สิ่งที่ควรตรวจเป็นประจํา คือ เครื่องยนต์, ห้ามล้อ, ยาง, นอตบังคับล้อ , พวงมาลัย, ที่ปัดน้ําฝน, กระจกส่องหลัง และไฟ

2. รอบรู้เรื่อง “ทาง”

ควรศึกษาเส้นทางจากแผนที่ คู่มือการท่องเที่ยว อินเตอร์เน็ต หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนออกเดินทาง

3. รอบรู้ “วิธีการขับรถ”

ต้องมีประสบการณ์และความชํานาญในการขับรถ เพื่อความปลอดของผู้ขับและผู้ร่วมทาง

4. รอบรู้เรื่อง “กฎจราจร”

เช่น ห้ามขับรถเกินอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด และต้องปฏิบัติตามป้าย หรือเครื่องหมายต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

5. รอบรู้เรื่อง “มารยาทในการขับรถ”

ต้องมีความอะลุ้มอะล่วย เห็นใจ และให้อภัยต่อความผิดพลาดของผู้อื่น

ทั้งนี้ อายฟลีต มีความห่วงใยและต้องการส่งมอบความปลอดภัยให้แก่ประชาชนด้วยเช่นกัน จึงขอแนะนำ เทคโนโลยีที่จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วย ระบบขับขี่ปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) ที่จะช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ ด้วยการส่งสัญญาณเตือน เมื่ออยู่ในสภาวะที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitor) ทำหน้าที่ประมวลผลภาพบุคคลและวิเคราะห์พฤติกรรม หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือง่วงนอนในขณะขับรถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและแนะนำให้คนขับหยุดพักทันที

EyeFleet Adas

ระบบขับขี่ปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS)

DMS EyeFleet

ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitor)

สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่มีจำนวนยานพาหนะค่อนข้างมาก อาจดูแลยานพาหนะได้ไม่ทั่วถึง อายฟลีต ขอแนะนำ ระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงรถ ( EyeFleet Maintenance ) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการวางแผนงานซ่อมบำรุงรถล่วงหน้า ด้วยระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการเข้าบำรุงรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานรถ ไม่เสียบ่อย และช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมยานพาหนะให้กับคุณได้ หากคุณไม่มีระบบซ่อมบำรุงยานพาหนะที่ดี ย่อมส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ และอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก: กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.