หากมองย้อนกลับไปในอดีต “ กล้องติดหน้ารถ ” อาจเป็นอุปกรณ์ที่สิ้นเปลืองและไม่จำเป็น แต่เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้น ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ทุกวัน ทุกเวลา และไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับเราก็เป็นได้ แต่สิ่งเดียวที่จะช่วยยืนยันและเป็นหลักฐานสำคัญให้กับเราได้นั้นก็คือ กล้องติดหน้ารถ ที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้
เหตุผลที่คุณควรจะมีกล้องติดรถยนต์
หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นข่าวหรือคลิปจาก กล้องติดหน้ารถ กันบ่อย ๆ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่จับมือใครดมไม่ค่อยจะได้แบบนี้ เพราะการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ ก็เปรียบเสมือนการซื้อประกันภัย คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุหรืออยากใช้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ใช่ไหมครับ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว หลักฐานจากกล้องติดรถจะช่วยลดข้อพิพาท รวมถึงเป็นหลักฐานในชั้นศาล โดยสามารถเรียกร้องกับบริษัทประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ และนอกจากจะช่วยป้องกันภัยให้กับตัวเราแล้ว ยังช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างกรณีข่าวของ “นักร้องสาวชื่อดัง ที่โพสต์คลิปวิดีโอเตือนภัย และเล่าถึงเหตุการณ์ที่มีรถเก๋งไหลมาชนรถของคุณพ่อ แต่โวยวายจะให้รับผิดชอบ?” ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทำให้ กล้องติดรถยนต์ กลับมาเป็นที่สนใจของคนไทยอีกครั้ง
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะที่คุณพ่อของนักร้องสาวจอดรถติดไฟแดง กระทั่งจู่ ๆ รถเก๋งคันข้างหน้าก็ไหลมาชน จากนั้นเจ้าของรถก็ลงมาและบอกว่าเขาเสียหาย รถเขาเป็นรอย ต้องการให้เรารับผิดชอบ โดยข่มขู่คุณพ่ออยู่พักใหญ่ แต่โชคดีมีคนขับรถเมล์เห็นเหตุการณ์ จึงจอดรถช่วยเป็นพยานให้ว่า เขามาชนเราเอง
จากนั้น คุณพ่อจะเรียกประกันก็ไม่ให้เรียก บอกให้ไป สน. ก็ไม่ยอมไป แต่พอบอกให้ดูหลักฐานจาก กล้องหน้ารถ ว่าใครผิดใครถูก หนุ่มคู่กรณีก็ไม่ยอมดู พร้อมกับรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ถือว่า โชคดีที่มีกล้องติดหน้ารถ และไม่ได้ให้เงินไป พร้อมขอบคุณคนขับรถเมล์ที่จอดเป็นพยานให้คุณพ่อด้วย
ภายหลังเกิดเหตุ หนุ่มคู่กรณีเปิดใจขอโทษผ่านสื่อกับพฤติกรรมที่มีการก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่ ส่วนกรณีที่รถไหลถอยหลังไปชน ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้มีเจตนาหรือตั้งใจ และไม่ใช่มิจฉาชีพอย่างที่ถูกกล่าวหา ตอนนั้นคิดว่าตัวเองถูก เพราะไม่ได้ดูกล้องหน้ารถของคู่กรณี พร้อมยินดีให้แจ้งความเอาผิดได้ แต่หากเป็นไปได้ก็อยากขอโทษต่อหน้าคุณพ่อด้วย
หนุ่มคู่กรณี ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบทางจิตใจและหน้าที่การงานอย่างมาก ล่าสุดก็ถูกให้พักงาน จึงขอทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน

กล้องติดรถยนต์ ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
อย่างที่ทราบกันดีว่า กล้องติดรถ เป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย แต่เราจะหาซื้อกล้องติดรถแบบไหนดี ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันตอบโจทย์ ในราคาที่เอื้อมถึง
*สำหรับผู้ที่กำลังมองหา กล้องติดรถยนต์
อายฟลีต เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ กล้อง CCTV ที่ติดตั้งได้กับรถทุกประเภท ทั้งภายในและภายนอกรถ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก หรือรถโดยสารสาธารณะ ก็สามารถติดตั้งได้ ซึ่งจะช่วยบันทึกภาพและเป็นหลักฐานสำคัญได้อย่างชัดเจน ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย สามารถดูผ่านมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา และเก็บข้อมูลได้บนระบบ Cloud Server ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ว่าไม่หายแน่นอน

คุณสมบัติของ กล้องติดรถยนต์ จาก อายฟลีต

บันทึกวิดีโอพร้อมเสียง
ความละเอียดสูง คมชัด ระดับ Full HD 1080p

รองรับสัญญาณ 3G/4G
สัญญาณแรง และเร็วที่สุด

กล้องมีระบบอินฟราเรด
มองเห็นวัตถุในที่มืดได้อย่างชัดเจน

บันทึกข้อมูลผ่าน เครื่องรับ-ส่งสัญญาณข้อมูล (MDVR)
- แบบ Harddisk
ขนาดความจุ 1 TB สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 30 วัน (บันทึกลง Cloud Server 7 วัน) มีช่องใส่ SD Card และ USB ในตัวเครื่อง
- แบบ SD Card
ความจุ 128 GB สามารถดูวิดีโอย้อนหลังได้ 7 วัน

ตั้งค่าหลังจากดับเครื่อง
สามารถตั้งค่าให้กล้องทำงานหลังจากดับเครื่องยนต์ได้

รองรับอุปกรณ์เสริม
ติดตั้ง จอแสดงผล (Monitor) เพิ่มได้
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กล้อง CCTV ติดรถยนต์ (EYEFLEET CCTV& MDVR)
กล้องติดรถยนต์ อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญต่อการขับขี่ แต่ในยามที่เกิดเหตุไม่คาดคิด มันจะเป็นพยานสำคัญที่จะช่วยคุณได้ ในกรณีที่คุณไม่ผิด แต่ในกรณีที่คุณผิด มันก็จะเป็นเครื่องเตือนสติให้คุณพิจารณาว่าเหตุเกิดจากอะไร และควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม การใช้กล้องวงจรปิดติดรถยนต์ก็มีข้อควรระวัง คือ พึงระลึกว่าต้องใช้กล้องโดยคำนึงถึงการไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น สนใจติดตั้ง กล้องติดรถยนต์ ติดต่อได้ที่ : Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก: IG lydiasarunrat และ thaich8.com