การใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันสำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ จะต้องผ่านมาตรฐานการรับรองต่าง ๆ ตลอดจนเรื่องความพร้อมของพนักงานขับรถก็เป็นสิ่งสำคัญ มิฉะนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์คนขับรถบรรทุกซิ่งชนคนแล้วหนี หรือ คนขับรถทัวร์หลับใน ดังเช่นข่าวนี้
สารบัญ
คนขับเสพยา หลับใน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต
อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ซึ่งหากคุณได้ติดตามข่าวสาร คงจะเห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้ยังเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้เลย ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก “ความประมาท” ของผู้ใช้รถใช้ถนน และนี้ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความสูญเสียไม่น้อย เมื่อคนขับรถทัวร์รายหนึ่งเกิดหลับในขณะขับรถ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
โชเฟอร์รถทัวร์หลับใน ขับชนต่อม่อ จ.สระบุรี ดับ 8 ศพ
จากกรณีที่รถทัวร์โดยสาร กรุงเทพฯ – สุวรรณภูมิ (ร้อยเอ็ด) เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนตอม่อสะพานต่างระดับตลิ่งชัน บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าห้างโรบินสัน สาขาสระบุรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บ 22 ราย จากการตรวจร่างกายของแพทย์พบว่าพนักงานขับรถทัวร์คันเกิดเหตุมีสารเสพติด เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ในร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมารับทราบข้อกล่าวหา และได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อม
ซึ่งผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานขับรถทัวร์ให้การรับสารภาพว่าได้เสพสารเสพติดก่อนปฏิบัติหน้าที่ขับรถโดยสารจริง โดยตนเป็นคนขับที่ 2 เริ่มขับจากสถานีขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ก่อนมาถึงที่เกิดเหตุได้มีอาการวูบหลับและสะดุ้งตื่น ซึ่งขณะนั้นรถได้เสียหลักไปชนกับแบริเออร์เกาะกลางถนน แล้วไถลไปชนเสาสะพานต่างระดับจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยใช้ความเร็วขณะเกิดเหตุที่ 89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับพนักงานขับรถทัวร์ 2 ข้อหา คือ 1. ขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 2. ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถ แต่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
สำนักงานขนส่ง จ.สระบุรี จึงได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสาธารณะ เนื่องจากมีความผิดฐานใช้ยาเสพติดให้โทษ ตามมาตรา 127 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบกับเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก และได้ดำเนินการเพิกถอนรถคันดังกล่าวออกจากใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางแล้ว
จากนั้นได้เรียก บริษัท ขนส่ง จำกัด ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งมาดำเนินการพิจารณาลงโทษ ฐานไม่ควบคุมกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และให้พิจารณาดำเนินการลงโทษตามสัญญาเข้าร่วมบริการของ บริษัท สหพันธ์ ร้อยเอ็ดทัวร์ จำกัด ต่อไป
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและการดำเนินการของ บริษัท สหพันธ์ ร้อยเอ็ดทัวร์ จำกัด ซึ่งเป็นรถร่วมบริการร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางดังกล่าว จำนวน 8 คัน เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการบริหารจัดการในการขนส่งผู้โดยสาร ความพร้อมของพนักงานขับรถ ความพร้อมของผู้ประจำรถ และการดูแลบำรุงรักษารถให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการต่อไป
ความพร้อมในการให้บริการของรถโดยสาร
เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการเดินทางด้วยรถโดยสาร ผู้ประกอบการต้องตรวจสภาพรถ และความพร้อมของพนักงานขับรถ เพื่อความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
การตรวจเช็คสภาพรถ
ตัวรถต้องมีสภาพความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) ผ่านการตรวจสภาพรถและชำระภาษีถูกต้องตรงตามระยะเวลา พร้อมทั้งติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ได้แก่ เข็มขัดนิรภัย ประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกครบถ้วน และกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่างปลอดภัย
ความพร้อมของพนักงานขับรถ
ก่อนออกเดินทาง พนักงานขับรถต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนให้เพียงพอและไม่ดื่มสุรา โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ต้องไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท นอกจากนี้ต้องขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องเปลี่ยนคนขับเมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะขับรถต่อไปอีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง ที่สำคัญคือต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีจาก อายฟลีต
ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitor)
เป็นระบบที่จะช่วยเตือนผู้ขับให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตรวจจับอาการเหนื่อยล้า หาว หลับใน การละสายตาจากถนน การคุยโทรศัพท์ และการสูบบุหรี่ของผู้ขับรถ พร้อมระบบอินฟาเรด (Infared) ที่ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ติดตั้งได้กับรถทุกประเภท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ระบบขับขี่ปลอดภัย ADAS (Advanced Driver Assistance System)
ระบบขับขี่ปลอดภัยอัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยควบคุมการขับขี่ให้ปลอดภัยมากขึ้นกว่าการขับแบบทั่วไป โดยระบบจะตรวจจับพฤติกรรมการขับรถที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับรถระยะกระชั้นชิด เป็นต้น สามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภท ซึ่งจะช่วยป้องกัน หลีกเลี่ยง และลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ระบบขับขี่ปลอดภัย ADAS
จอแสดงผลความเร็วรถ (Speed Display)
เป็นอุปกรณ์แสดงความเร็วสำหรับรถโดยสาร เช่น รถบัส รถทัวร์ รถเมล์ และรถตู้ โดยรับข้อมูลจาก ระบบ GPS ของ อายฟลีต จึงทำให้ได้ค่าความเร็วที่แม่นยำ แสดงผลข้อมูลด้วยหน้าจอ LED ขนาด 7 นิ้ว ช่วยให้ผู้โดยสารทราบถึงความเร็วปัจจุบันของรถได้แบบเรียลไทม์ และมีจอแสดง Active Driving Display สำหรับผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ขับขี่ขับรถเร็วเกินกำหนด จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จอแสดงผลความเร็วรถ
ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ (EyeFleet Maintenance)
เป็นระบบที่จะช่วยในการวางแผนงานซ่อมบำรุงยานพาหนะให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถสร้างรายการบำรุงรักษา ขอซ่อม และเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะได้ เช่น ทะเบียน พ.ร.บ. และประกันภัยต่าง ๆ ซึ่งระบบจะทำการแจ้งเตือนทันทีเมื่อถึงกำหนดการเข้าบำรุงรักษา หรือต่อทะเบียน เพื่อให้ยานพาหนะคงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา จึงช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และช่วยวิเคราะห์แผนบำรุงรักษายานพาหนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ
สรุป
การตรวจเช็ครถอย่างสม่ำเสมอและก่อนออกเดินทาง เป็นการตรวจสภาพรถเพื่อยืนยันการใช้รถในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเบื้องต้น เพราะค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุงรักษารถจะใช้งบประมาณที่ต่ำกว่าการซ่อมแซมเมื่อมีชิ้นส่วนชำรุดหรือเสียหาย ซึ่งการตรวจเช็คสภาพรถต้องควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงาน โดยให้ความรู้ ทักษะ การขับรถอย่างปลอดภัยที่เกี่ยวเนื่องกับอุปกรณ์บนรถ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงการเช็คความพร้อมของพนักงานขับรถด้วย ซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ทำให้บริษัทใช้รถได้อย่างคุ้มค่า ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ยืดอายุการใช้งาน และยังช่วยให้ผู้โดยสารเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยตรงตามกำหนดเวลาด้วย หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจสินค้าแนะนำดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line: @eyefleet หรือ โทร. 02-052-4466
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวและรูปภาพจาก: กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News